ตั้งแต่โบราณกาลมา ตราบจนกระทั่งวินาทีนี้ "กฎแห่งกรรม" ยังคงปรากฎให้เห็นกระจ่างชัด ไม่เคยปิดบังอำพราง ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุผล ประจักษ์พยานมีให้เห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาทุกคน แล้วยังจะมีอะไรที่ต้องลังเลสงสัยอีกหรือ?
ทุกวันนี้ทั่วทั้งโลกต่างรบราฆ่าฟันกัน จนแม้แต่อาหารก็ไม่มีจะกิน ภัยพิบัติมากมายก็กระหน่ำซ้ำเติมไม่หยุด ผู้มีญาณปัญญาทั้งหลายล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "เพราะการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตนั่นแหละ!"
หาใช่ ผีสาง เทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา ลงโทษไม่ แท้จริงภัยพิบัติทั้งหลายเป็นผลจากความชั่วที่มนุษย์เป็นผู้ก่อไว้เองทั้งสิ้น
พระอริยะเจ้าทุกพระองค์ เมื่อบรรลุสัจธรรมยิ่งใหญ่แล้วมีพระองค์ใดบ้างที่ไม่สอนให้มนุษย์เว้นจากการ "ฆ่า"
อาศัยเมตตาธรรมเท่านั้นจึงสามารถค้ำจุนให้โลกนี้สงบลงได้ หากมีคนหนึ่งที่ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ก็จะต้องมีหนึ่งคนที่รอดพ้นภัยพิบัติไปได้ หากมีหนึ่งครอบครัวที่ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็จะมีหนึ่งครอบครัวที่รอดตาย หากมีหนึ่งตำบล...หนึ่งอำเภอ...หนึ่งประเทศที่ไม่คิดฆ่าผลก็เป็นเช่นเดียวกันคือ "ไม่ตายเพราะบาปกรรม" คนที่ไม่เชื่อไม่เข้าใจใน "กฎแห่งกรรม" รู้ว่าการเข่นฆ่านั้นมันไม่ดี แต่ก็ยังทำ! หารู้ไม่ว่าตนเองกำลังสร้างภัยพิบัติให้มาทำลายล้างผลาญตัวเอง
สาธุชนผู้ตั้งมั่นอยู่ในความดี จงรู้ไว้เถิดว่า แม้จะต้องประสบกับความลำบาก ยากแค้นไม่มีแม้ข้าวจะกินน้ำจะดื่ม ต้องตกอยู่ในท่ามกลางการเข่นฆ่าประหัตประหาร ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใหญ่หลวงสักเท่าใด ผลานุภาพแห่งความดีงามที่สร้างสมไว้ จะปกป้องคุ้มครองเราท่านทั้งหลาย ให้สามารถผ่านพ้นมหัตภัยไปได้แม้ปลายเส้นผมเส้นหนึ่งก็ไม่ขาดหาย
ขอให้ผู้มุ่งมั่นบำเพ็ญธรรมทั้งหลาย จงบรรลุเป้าหมายสูงสุดเข้าสู่ "แดนนิพพาน" ได้โดยถ้วนทั่วพร้อมเพรียงกันทุกรูปทุกนามเทอญ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น