ในรัชสมัยของพระถังเกาจง แห่งราชวงศ์ถัง มีหนังสือเล่มหนึ่งบันทึกไว้ว่า
ที่ริมทะเลสาบ ป๋อไห่ ข้าราชการเจ้าหน้าที่กองคลังผู้หนึ่งชื่อ ฟ่ง เหยียน เจ่อ มีหน้าที่ตรวจตราดูแลและรักษาทรัพย์สินของทางราชการ แต่เขาเป็นคนเห็นแก่กินชอบฆ่าสัตว์
คราวนั้นได้มีท่านอ๋องผู้เป็นประมุขของประเทศราชเล็กๆ เดินทางมาเข้าเฝ้าพระจักรพรรดิ์ โดยนำเอาแพะที่เลี้ยงดูอย่างดีหลายพันตัวมาถวายเป็นเครื่องราชบรรณาการแต่องค์พระจักรพรรดิ์ถังเกาจงทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรมและเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อพระองค์ทรงรับเอาไว้แล้วก็ตรัสสั่งให้นำแพะทั้งหมดไปปล่อยไว้ในเขตอภัยทาน ณ พระอารามหลวงบนภูเขา เพื่อให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเป็นอิสระ
ไม่นึกเลยว่า ฟ่ง เหยียน เจ่อ ข้าราชการผู้มีจิตคิดละโมบเห็นแก่กิน เขาเห็นแพะเหล่านั้นอ้วนท้วนสมบูรณ์ซ้ำยังตกมาอยู่ในมือของตนแล้ว มีหรือจะปล่อยไป ด้วยความคิดที่มิชอบจึงสั่งให้ลูกน้องเอาแพะมาฆ่ากินเสียส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ลักลอบนำไปขายให้แกโรงฆ่าสัตว์ แล้วยักยอกเงินจำนวนมากมายที่ได้เอาไว้ โดยคิดว่าไม่มีใครจะล่วงรู้การกระทำของตน
สวรรค์มีตา! การกระทำอันชั่วช้าของ ฟ่ง เหยียน เจ่อ แม้ไม่มีใครรู้ แต่ก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาของฟ้าเบื้องบนไปได้
หนึ่งปีต่อมา ประมาณกลางเดือนหก วันนั้นจู่ๆก็เกิดพายุฟ้าคะนองโดยไม่มีเค้ามาก่อน เสียงฟ้าร้องสนั่น ทั้งฝนทั้งลมพัดกระหน่ำอย่างน่ากลัว ฟ่ง เหยียน เจ่อ กำลังเดินอยู่บนถนน ทันใดนั้นฟ้าได้ผ่าเปรี้ยงลงที่คอของเขา หัวขาดกระเด็นกลิ้งไปตามทางเลือดไหลนอง ข้าราชการกองคลังผู้เห็นแก่ได้ล้มลงตายอยู่กลางถนน!
สักครู่ใหญ่เมื่อพายุฝนสงบลง ประชาชนต่างพากันออกมามุงดูเหตการณ์ที่เกิดขึ้นจนแน่นขนัด ทุกคนทั้งกลัวทั้งตกใจต่อภาพที่พบเห็น แล้วพูดกันว่า
"คนที่หัวขาดกระเด็นออกจากตัวไปคนละทิศละทางแบบนี้
ต้องทำอะไรผิดต่อฟ้าดินอย่างมหันต์เป็นแน่!
ฟ้าจึงได้พิโรธถึงขนาดนี้!"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น