สมุดบันทึกการเข่นฆ่าของ หวง เสียง ฝ่าน เขียนเล่าว่า
"เวลานี้บ้านเมืองเกิดกลียุคจิตใจของผู้คนต่ำ ไม่ว่าจะไปทิศทางไหน ก็พบแต่การกระทำที่เหี้ยมโหด ทุกแห่งหนมีแต่ปล้น ฆ่า ฟันแทง แก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ มุ่งประหัตประหารซึ่งกันและกัน ผู้คนล้มตายกลาดเกลื่อนราวกับชีวิตไร้ค่า คนเห็นคนเหมือนไม่ใช่คน ฆ่าฟันกันได้เหมือนผักปลา ความหายนะปกคลุกไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทั้งเด็กเล็กผู้ใหญ่หนุ่มสาวและคนชราต่างมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมนอันน่าสะพรึงกลัว..."
ในขณะนั้น มีบัณฑิตคนหนึ่งนามว่า หลี่ เผย เต๋อ มีชีวิตอยู่เห็นเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ก็ได้แต่รำพึงด้วยความสลดหดหู่ใจว่า "ไม่น่าเกิดเรื่องเช่นนี้ในโลกนี้เลย...ไม่น่าเลย..."
ต่อมาเขาได้ฝันว่าบนเขาสูงมีนักพรตผู้สำเร็จธรรมแล้วท่านหนึ่งมีนามว่า "กวน หลิน เต้า จ่าง" บัณฑิตผู้ต้องการค้นหาคำตอบจึงดั้นด้นปีนขึ้นไปบนภูเขา เมื่อพบท่านนักพรตแล้วเขาก็กราบนมัสการเรียนถามท่านว่า
"เหตุใดในสากลโลกนี้ มนุษย์จะต้องพานพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย "ฉนคนดีๆจึงต้องล้มตายลงอย่างน่าอนาถเช่นนี้เล่า?"
นักพรตผู้ทรงศีลก็ทอดถอนใจใหญ่ แล้วตอบว่า
"โลกมนุษย์เวลานี้ ใจของคนเห็นการเข่นฆ่าเป็นเรื่องธรรมดา ก็เพราะ กรรมชั่วที่สะสมมานับชาติไม่ถ้วนได้ฝังลึกลงในวิญญาณของผู้คน จนแทบจะไม่มีที่เหลือไว้ให้ความดีสถิตอยู่ได้เลย พวกเขาสามารถสร้างความเลวร้ายได้ทุกชนิด โดยไม่สะทกสะท้าน หากคนยังประพฤติเช่นนี้อีก ต่อไปฟ้าเบื้องบนก็ไม่ให้อภัย แรงบาปกรรมที่แต่ละคนต่างสะสมกันไว้ในจิตใจคนละมากๆ จะสะท้อนกลับมาเป็นมหัตภัยใหญ่ บันดาลให้โลกธาตุวิปริตแปรปรวนแผ่นดินไหว น้ำท่วม ฤดูกาลคลาดเคลื่อน ผืนดินแห้งแล้ง อาหารขาดแคลน เกิดโรคระบาดคร่าชีวิตผู้คน จิตใจของคนเร่าร้อนด้วยกิเลสตัณหา ลุกขึ้นเข่นฆ่าประหัตประหารล้มตายกันเป็นเบือจนซากศพกองท่วมภูเขา คนที่สร้างแต่กรรมชั่ว ก็จะต้องถูกทำลายลงไปเพื่อชดใช้หนี้กรรมของตน ชะตากรรมอันเลวร้ายที่โลกต้องประสบทั้งหมดก็เพราะ "คน" เป็นผู้กำหนดขึ้นเอง นี่คือ กฎแห่งกรรม..กฎแห่งฟ้าดิน บัดนี้จึงเป็นเวลาแห่งการสะสางบัญชีกรรมครั้งยิ่งใหญ่แล้วนั่นเอง"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น