เฉิน ซิง ถั่น เป็นผู้ช่วยนายอำเภออยู่ในมณฑล ฝู่ โจว ตอนหนุ่มๆ ก่อนที่จะสอบเข้ารับราชการ เขากับเพื่อนๆนักศึกษาที่มาจากอำเภอ ซีหู กำลังจะพากันไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารในเมือง
เมื่อมาถึงหน้าร้านอาหารขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตู เฉิน ซิง ถั่น เห็นชายคนหนึ่งใช้ไม้ตีวัวไม่หยุด แต่ไม่ว่าจะตีเท่าไหร่วัวก็ไม่ยอมไป เขาจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เห็นวัวตัวนั้นสองแก้มเปียกชุ่ม น้ำตาร่วงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตลอดเวลา มันคงรู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
นักศึกษาหนุ่ม เฉิน ซิง ถั่น ยืนนิ่งด้วยความสงสาร สักครู่เมื่อคิดขึ้นได้เขาจึงเอ่ยถามชายเจ้าของวัวให้รู้ว่า จะต้องใช้เงินสักเท่าไรเพื่อซื้อวัวตัวนั้นครั้นตกลงราคากันเรียบร้อยแล้ว เฉิน ซิง ถั่น จึงเดินกลับมาคุยกับเพื่อนๆ ที่รอเขาอยู่ว่า
"ที่พวกเราเตรียมตัวกันมากินเลี้ยงในวันนี้ มีเงินกันคนละเท่าไร?
ข้าพเจ้าอยากขอเรี่ยรายรวบรวมจากทุกคน
เพื่อนำไปซื้อวัวที่กำลังจะถูกส่งไปฆ่า หวังว่าเพื่อนๆ ทั้งหลายจะร่วมจิตร่วมใจกันสร้างความดีสักครั้ง หนึ่งจะดีไหม ไม่รู้ว่าทุกคนจะคิดอย่างไร?"
เพื่อนนักศึกษาคนหนึ่ง ได้แสดงความคิดเห็นว่า
"ไม่เห็นด้วย ถ้าทำเช่นนี้เราก็อดใช้เงินน่ะสิ"
อีกคนหนึ่งก็กล่าวว่า
"มันเป็นเรื่องของวัว พวกเราเพียงแต่จะมากินเลี้ยงกันเท่านั้นไม่น่าจะไปเกี่ยวข้องเลย"
ส่วนหนึ่งที่เหลือก็สนับสนุนว่า
"ใช่แล้ว..ใช่แล้ว ถ้าเอาเงินทั้งหมดไปซื้อวัว วันนี้เราก็อดเลี้ยงสังสรรค์กันน่ะซิ"
เฉิน ซิง ถั่น นักศึกษาหนุ่มผู้มีจิตใจเมตตา ได้ยินเพื่อนๆพูดเช่นนั้นแล้วเขาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันซื้อวัวให้จงได้
นักศึกษาหนุ่มจึงเสนอขึ้นว่า
"สำหรับเรื่องกินเลี้ยงไม่ต้องเป็นห่วง ข้าพเจ้ามีความยินดีขอเชิญทุกท่านไปทานอาหารที่บ้านของข้าพเจ้าแทน รับรองว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเลย หวังว่าเพื่อนๆ คงจะให้เกียรติและรับน้ำใจของข้าพเจ้าไว้ด้วย"
ถึงขั้นนี้แล้ว เพื่อนๆทุกคนก็ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร จึงตกลงยินยอมตามที่ เฉิน ซิง ถั่น ขอร้อง
พวกเขาทุกคนช่วยกันนำวัวที่ซื้อมาได้ ไปปล่อยที่วัดใหญ่แห่งหนึ่งพร้อมกับถวายเงินที่เหลือให้แก่พระสงฆ์ผู้ให้การดูแล
เช้าวันรุ่งขึ้น เฉิน ซิง ถั่น ได้เล่าให้ภรรยาฟังถึงเรื่องราวการเรี่ยรายเงินจากเพื่อนและคำสัญญาที่จะเลี้ยงทดแทนพวกเขาทุกคน แต่ในบ้านไม่มีเงินพอ ขณะที่กำลังคิดหาวิธีกันอยู่ ภรรยาของ เฉิน ซิง ถั่นจึงลุกขึ้นกล่าวว่า
"เกิดเป็นคนต้องมีสัจจะ
วาจาที่พูดออกไปแล้วต้องทำให้ได้"
และแล้วทั้งสองก็ช่วยกันขนทรัพย์สินเสื้อผ้ารวมทั้งของใช้ที่มีอยู่ไปจำนำทั้งหมด แล้วนำเงินที่ได้มาจัดเตรียมอาหารอย่างดีไว้เลี้ยงแขก สร้างความพอใจแก่เพื่อนๆทุกคน ตามคำสัญญาที่ให้ไว้
อีกหนึ่งปีต่อมา หลังจากวันขึ้นปีใหม่ผ่านพ้นไป เฉิน ซิง ถั่น ได้ไปสอบแข่งขันเข้ารับราชการ ผลการสอบของเขาเป็นที่น่าพอใจแก่ทุกฝ่าย นักศึกษาผู้มีน้ำใจดีงามจึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นถึง ผู้ตรวจราชการแผ่นดิน
คนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นอย่างไม่ย่อท้อ
ย่อมนำมาซึ่งวาสนาบารมีและความเจริญรุ่งเรืองแก่ชีวิตตน
นี่คือ...ผลแห่งเมตตาจิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น