หนังสือกฎแห่งกรรมมีเรื่องราวบันทึกไว้ว่าที่มณฑลเห่อหนัน มีนายแพทย์คนหนึ่งชอบกินเนื้อวัวเป็นชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่เขาถูกเชิญให้ไปรักษาคนไข้ตามบ้าน หากเจ้าของบ้านเชิญให้รับประทานอาหารโดยบนโต๊ะไม่มีเนื้อวัว เขาก็จะแสดงความไม่พอใจอย่างออกหน้าออกตาแถมพูดจาติเตียนเหน็บแนมว่า
"บ้านหลังนี้จะเลี้ยงอาหารทั้งทีไม่มีความจริงใจ!" เสร็จแล้วก็จะจากไปโดยไม่ยอมรับประทาน
ต่อมาเมื่อนายแพทย์คนนี้ตายไป วิญญาญได้ตกลงสู่นรกขณะที่คุกเข่าอยู่ต่อหน้าพญายมเพื่อพิจารณาผลกรรมที่ทำไว้ ข้างๆเขาก็มีวิญญาณของคนในตำบลเดียวกัน ซึ่งมีอาชีพฆ่าวัวคุกเข่าอยู่ด้วย ทันทีที่คนฆ่าวัวเห็นเขามาถึงก็ชี้หน้าด่าว่า
"ถ้าพวกแกไม่กิน ฉันก็ไม่ต้องฆ่า!"
นายแพทย์ผู้ชอบกินเนื้อวัวมาตลอดชีวิต ก็สวนไปทันควันว่า
"ถ้าแกไม่ฆ่า...ฉันก็ไม่ซื้อกินหรอก!"
วิญญาณทั้งสองโต้เถียงกันอย่างไม่ลดราวาศอก ต่างโยนความผิดให้แก่กันและกัน
พญายมผู้เป็นใหญ่ในนรก จึงตวาดเสียงดังด้วยความโกรธว่า
"วัวควายเป็นสัตว์ประเสริฐ ใช้หยาดเหงื่อแรงกายไถนา
จนได้ข้าวมาเลี้ยงชีวิตผู้คน
พวกเจ้าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ
ซ้ำยังฆ่าเขากินเลือดกินเนื้อ
ทั้งคนกินและคนฆ่า มีโทษทัณ์เท่ากัน
ใครก็รู้อยู่แก่ใจว่า กินมาก ก็ต้องฆ่ามาก
กินน้อย ก็ฆ่าน้อย
ไม่มีคนกิน ก็ย่อมไม่ต้องฆ่า
นี่คือ หลักของความเป็นจริง
จงฟังคำพิพากษาของเรา!
เจ้า!..คนที่เข่นฆ่าชีวิตสัตว์ทั้งหลาย
เป็นพวกมือโหดใจเหี้ยมต้องไปรับโทษในขุมนรก!
ส่วนเจ้า!...ผู้ที่ชอบกินเนื้อวัว ยามมีชีวิตอยู่เป็นหมอแต่กลับปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทขาดความจริงใจ ไม่รับผิดชอบ จ่ายยาให้คนไข้ผิด ทำให้เขาต้องตายไปรวมทั้งสิ้น ๑๑ คน
เจ้าต้องไปเกิดเป็นวัว ๑๑ ชาติ และถูกเขาฆ่าตายเพื่อชดใช้ชีวิตทั้ง ๑๑ ชาติ"
เรื่องราวทั้งหมดนี้ นาย ถู ซี หลิง ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงที่ตนได้ถอดวิญญาณไปพบเห็นในนรกภูมิ จึงเขียนเล่าให้คนในโลกมนุษย์รับรู้
เรื่องราวนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในปีสุดท้ายของกษัตริย์ เหยินจงแห่งราชวงศ์ชิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น